วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

3. งานกล้อง (Camera Work)

3. งานกล้อง  (Camera Work) 
                3.1. สติลช็อต (Still Shot) คือการถ่ายภาพโดยไม่เคลื่อนกล้องใช้มากในการถ่ายทำรายการทั่วไป โดยปกติกล้องจะโฟกัสอยู่บนวัตถุหรือบุคคลที่ต้องการออกอากาศมากที่สุด ในสติลช็อตเช่นนี้ถ้าจัดองค์ประกอบของภาพไม่ดี จะปรากฏให้เห็นชัดเจนบนจอโทรทัศน์
                3.2. แพนและทิลท์ (Pan & Tilt)  คือการถ่ายโดยการหมุนหน้ากล้องไปในแนวระดับหรือแนวนอน  แต่ไม่เปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้งของกล้อง เรียกว่า  แพน”  การถ่ายโดยยกหน้ากล้องขึ้นหรือกดลงในแนวดิ่งเรียกว่า  ทิลท์”  แต่มันเรียกรวมกันว่า  แพน”  เช่น  แพนขึ้นท้องฟ้า”  หรือ  แพนลงพื้น”  จุดประสงค์ในการใช้แพนหรือทิลท์  ก็คือ
                                ๐  เพื่อให้เห็นสิ่งที่อยู่นอกจอภาพในขณะนั้น
                                ๐  เพื่อให้เห็นตำแหน่งที่ตั้งของสิ่งต่างๆ  โดยสัมพันธ์กัน
     ๐  เพื่อให้เห็นวัตถุที่ยาวหรือสูงเกินรัศมีกล้อง
    ๐  เมื่อต้องการติดตามการเคลื่อนไหวของวัตถุ
    ๐  เพื่อให้เห็นปฏิกิริยาโต้ตอบกัน
    ๐  เมื่อต้องการปรับองค์ประกอบของภาพ
    ๐  เมื่อต้องการเปลี่ยนฉาก
                3.3. ดอลลี่ (Dolly)  คือการเคลื่อนกล้องเข้าใกล้วัตถุเรียกว่า ดอลลี่ - อิน”  (dolly - in)  เมื่อเคลื่อนกล้องออกห่างจากวัตถุเรียกว่า  ดอลลี่ - เอ้าต์”  (dolly - out)  หรือ ดอลลี่ แบ็ก”  (dooly  - back)  จุดมุ่งหมายของการใช้ดอลลี่ คือ
                                ๐  เพื่อสร้างความน่าตื่นเต้น
                                ๐  เมื่อต้องการติดตามการเคลื่อนไหว
                                ๐  เพื่อให้มีมุมมองภาพที่หลากหลายแบบ
    ๐  เมื่อต้องการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบของภาพ
                3.4. แทรค (Track) หมายถึงการเคลื่อนกล้องไปตามแนวนอนขณะกำลังถ่ายเรียกว่า แทรคกิ้ง”  (tracking)  ถ้ากล้องเคลื่อนไปรอบวัตถุเรียกว่า “follow - tracking”  ถ้ากล้องเคลื่อนไปรอบวัตถุ  โดยมีวัตถุเป็นศูนย์กลางเรียกว่า  “revolve - tracking”  การใช้แทรคมีจุดประสงค์ คือ
                                ๐  เพื่อให้ได้มุมภาพที่หลากหลาย
                                ๐  เมื่อต้องการให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุกับฉากหลัง (Background)
                                ๐  เพื่อให้รู้สึกว่าภาพมีความลื่นไหล
                                ๐  เพื่อให้บังเกิดผลที่น่าตื่นใจ
                3.5. ซูม (Zoom)  หมายถึงการเปลี่ยนขนาดของภาพด้วยการเปลี่ยนมุมหักเหของเลนส์ซูมโดยไม่ได้
เคลื่อนกล้องหรือวัตถุเรียกว่า ซูมถ้าเปลี่ยนจากมุมกว้างเป็นมุมแคบเรียกว่า ซูมอิน
(Zoom - in) ตรงข้ามเรียกว่า ซูมเอ้าต์” (Zoom - out) วัตถุประสงค์ของการใช้ซูม คือ
                                ๐  เมื่อต้องการเปลี่ยนขนาดของวัตถุอย่างช้าๆ
                                ๐  เมื่อต้องการให้ผู้ชมสนใจในวัตถุอย่างช้าๆ
                                ๐  เมื่อต้องการเห็นวัตถุนั้นอย่างชัดเจน
                                ๐  เพื่อให้บังเกิดผลที่น่าตื่นใจ
- เราใช้ซูมบ่อยมากในการถ่ายทำรายการ  จึงขอให้สังเกตบางประการเกี่ยวกับการ ใช้ซูมไว้ที่นี้
                                                ๐  อย่าใช้ซูมพร่ำเพรื่อ ใช้ดอลลี่หรือแทรคกิ้งบ้างในโอกาสที่สมควร
                                                ๐  ตั้งโฟกัสไว้ที่ปลายสุดแล้วจึงค่อยเปลี่ยนไปสู่ขนาดภาพที่ต้องการ
                     ๐  ซูมด้วยอัตราความเร็วที่พิจารณาแล้วว่าเหมาะสมกับความต้องการในการ แสดงออก
                3.6. บูมและเครน (Boom & Crane) คือการถ่ายพร้อมกับการเลื่อนขาตั้งกล้องในแนวตั้ง  เรียกว่า  บูม”   ถ้าเคลื่อนขึ้น  เรียกว่า  บูมอัพ”   เลื่อนลงเรียกว่า  บูมดาวน์”   เลื่อนกล้องขึ้นลงโดยใช้เครนเรียกว่า  เครนอัพ”  และ  เครนดาวน์”  วัตถุประสงค์ของการบูม  คือเพื่อให้คงมุมกล้องที่ต้องการไว้ตลอดที่ต้องการไว้ตลอดเวลาที่ใช้บูม  และการใช้เครนก็เพื่อให้ได้มุมกล้องจากที่สูงและจากที่ต่ำได้อย่างต่อเนื่องโดยเลื่อนเครน
                                - ความแตกต่างระหว่าง ซูมอิน”  “กับดอลลี่อิน
จะใช้  ซูมอิน”  (ZI)  แทน  ดอลลี่อิน”  (DI)  ไม่ได้  ZI  ใช้ขยายส่วนให้แก่ภาพ ที่ต้องการ  DI  คือการเข้าไปใกล้เพื่อให้ได้รายละเอียดของภาพที่ต้องการ

ZI  กับ  DI  จะไม่ให้ผลที่แตกต่างกันถ้าถ่ายวัตถุสองมิติ  หรือถ่ายภาพไดอะแกรม   เราใช้  ZI  ได้ดีในการถ่ายตัวอักษรหรือภาพถ่าย  เพราะสามารถเลื่อนเข้าไปใกล้ได้ง่ายกว่า  และราบเรียบกว่าในอัตราความเร็วตามที่ต้องการ ในที่นี้จะยกตัวอย่างความแตกต่าง  ระหว่าง  ZI  กับ  DI  ให้เห็นชัด  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น